วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

นวดเส้นลมปราน(ตับ)



การนวดเส้นลมปรานเป็นการนวดตามเส้นทางการไหลเวียนของเลือดลมทั่วร่างกาย
มักจะทุบไปด้วย ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก เป็นการบรรเทาการเจ็บป่วยของอวัยวะที่เกี่ยวข้อง

เส้นลมปราน หมายถึง เส้นทางการไหลเวียนของเลือดลม ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นเลือดฝอย กระจายอยู่ทั่วร่างกาย เชื่อมโยงอวัยวะภายในทั้งหมดให้ทำงานสมดุลกัน
หากเลือดลมคั่งค้างอุดตันก็จะส่งผลต่ออวัยวะ ทำให้เกิดการเจ็บป่วย ในทางกลับกัน หากอวัยวะทำงานผิดปกติ ก็จะส่งผลร้ายต่อเส้นลมปรานเช่นกัน ดังนั้นจึงควรทุบเส้นลมปรานเป็นประจำ เพื่อช่วยให่เลือดลมไหลเวียนสะดวก ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกัน
หมายเหตุ
อวัยวะภายในตามศาสตร์แพทย์แผนจีนแบ่งเป็น สามประเถทใหญ่ๆดังนี้
1. อวัยวะตัน มี 5 อวัยวะหลัก คือ หัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไต
2. อวัยวะกลวง มี 6 อวัยวะรองคือ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ เเละ ซานเจียว เป็นอวัยวะกลวงที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งก็คือ ช่องอกและช่องท้อง ที่บรรจุอวัยวะตันและกลวงไว้ทั้งหมดนั่นเอง
3. อวัยวะกลวงพิเศษ มี 6 ชนิดคือ สมอง ไขกระดูก กระดูก เส้นเลือด ถุงน้ำดี และมดลูก


เส้นลมปรานถุงน้ำดี
เส้นทางของลมปราน
เรื่มที่จุด ถงจื่อเหลียว ตรงหางตา ผ่านจุด ไท่หยาง ตรงขมับ แล้วแยกออกเป็นแนวตื้น และลึก อ้อมผ่านศรีษะด้านข้าง ผ่านคอลงมาบรรจบกันที่กระดูกไหปลาร้า จากนั้นจึงแยกออกอีกเป็นแนวลึกผ่านส่วนบนของตับและถุงน้ำดี ผ่านท้องน้อยแล้วมาบรรจบกับแนวตื้นที่โคนขาด้านนอก ส่วนแนวตื้น ผ่านด้านข้างของลำตัวลงล่าง แล้วผ่านโคนขาด้านข้างลงล่าง ไปตามด้านข้างของเท้าผ่านข้อเท้า จบลงที่จุดตรงปลายนิ้วก้อย(จูเชี่ยวอิน) นอกจากนี้ ยังมีเส้นแยกบริเวณส้นเท้า ผ่านหัวแม่เท้าซี่งเชื่อมโยงกับเส้นลมปรานตับอีกด้วย


เส้นลมปรานตับ
เป็นเส้นที่คู่กันกับเส้นลมปรานถุงน้ำดี มีหน้าที่ปรับการทำงานของตับ และควบคุมการไหลเวียนของเลือด
เส้นทางของลมปราน
เริ่มต้นที่จุด ต้าตุน ตรงหัวแม่เท้า ผ่านด้านในของเท้าขึ้นไปยังหน้าขา ผ่านอวัยวะเพศขึ้นไปถึงท้อง แล้วผ่านจุด ชีเหมิน บริเวณท้องด้านข้าง เป็นแนวลึกเข้าสู่ภายใน ผ่านตับและด้านบนของถุงน้ำดี
จากนั้นแยกออกเป็น สองแนว แนวหนึ่งผ่านลำตัวด้านข้างไปยัง อก คอ ปีกจมูก จนถึงตาแล้วผ่านหน้าผากไปยังกระหม่อม นอกจากนี้ยังมีเส้นที่แยกจากตา ผ่านแก้มลงมาอ้อมรอบริมฝีปาก จากตับยังมีเส้นแยกจาก กระบังลมไปที่ปอด เชื่อมโยงกับเส้นลมปรานปอดอีกด้วย

เช่น เมื่อตับมีปัญหา ควรนวดกดจุดใดบ้าง เพื่อคลายความเหนื่อยล้าของตับ หรือลดอาการเจ็บปวดที่เกิดจากโรคตับ
จุด ต่านชู อยู่ข้างกระดูกสันหลังข้อที่สิบ ทั้งซ้ายและขวา ห่างจากกระดูกสันหลัง สองนิ้วมือผู้ป่วย
การกระตุ้นจุดต่านชู เป็นการตรวจสอบว่าตับและถุงน้ำดีทำงานปกติดีหรือไม่ กดแล้วรู้สึกเจ็บก็แสดงว่าไม่ปกติ
วิธีนวด ใช้ท้องนิ้วหัวแม่มีอกดและออกแรงประมาณ 10-20 วินาทีแล้วปล่อย แล้วทำซ้ำอีกใน5 วินาที ทำ10ครั้ง จนรู้สึกตึงค่อยหยุด ขณะกดต้องหายใจเข้าลึกๆจากนั้นจึงกดพร้อมกับผ่อนลมหายใจออกช้าๆ
วิธีรูด กำมือโดยใช้หลังมือแนบกับจุดที่ต้องการนวด แล้วรูดขึ้นลงผ่านเส้นกระเพาะปัสสาวะด้านหลังไปมา ประมาณ 5 นาที จากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีถู โดยใช้ฝ่ามือถูบริเวณหลังจนรู้สึกร้อน(ไม่ต้องออกแรงมาก)
*เวลารวมทั้งหมดไม่เกิน 15นาที ตับและถุงน้ำดีทำงานสัมพันธ์กัน ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ ไม่ควรนวด*

จุด กานชู อยู่ข้างกระดูกสันหลังส่วนอก ชิ้นที่9 ต่อกับชิ้นที่10 ทั้งซ้ายและขวา ประมาณ 2 นิ้วมือผู้ป่วย จุดกานชู คือจุดสะท้อนหรือกระตุ้นใช้ทดสอบการทำงานของตับ การกดที่จุดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ ลดความรู้สึก แน่นบริเวณตับ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรัง
วิธีนวด ออกแรงกดที่จุดนี้ 10-20 วิ แล้วปล่อย ทำซ้ำ 10 ครั้ง
จุดกานชู ซีเหมิน และ ตับ ตั้งอยู่ในแนวเดียวกัน โดย 2 จุด นั้นจะเป็นศูนย์กลาง ที่ด้านซ้ายและขวา
ยังมีอีก6จุดที่ช่วยควบคุมการทำงานของตับ(จุดจินซู่ หุนเหมิน รื่อเยว่ จางเหมิน จวี่เชว และจงหว่าน รวมเรียกว่า เขตตับ(บริเวณอกขวาล่าง และท้องขวาบน))
เริ่มจากนอนหงาย แล้วใช้ฝ่ามือถูวน ตามเข็มนาฬิกาช้าๆ จนรู้สึกร้อน(ไม่ต้องออกแรงมาก) ใช้เวลาประมาณ5 นาที
*หากตัวร้อน มีประจำเดือน ดีซ่าน หรือตับอักเสบระยะอาการกำเริบ ห้าม*


จุด ชีเหมิน อยู่ตรงข้ามกับจุด กานชู
วิธีกด ในท่านอนราบ ซี่โครงช่องที่ 6 ออกแรงกดที่จุดนี้ประมาณ 10-20 วิ แล้วปล่อย ทุก 5 วิ ประมาณ 10 ครั้ง
วิธีนวด ใช้ฝ่ามือถูไปมา ระหว่าง อกขวาล่างกับท้องขวาบน 2 ครั้ง เช้า เย็น ครั้งละ 100-200 รอบ ช่วยบรรเทาอาการผิดปกติของตับ ช่วยให้ตับแข็งแรง

จุด จู๋ชานหลี่ อยู่ตรงรอยบุ๋มด้านนอกวัดจากใต้เข่าลงไป 3 นิ้ว ผล ช่วยกระตุ้นลมปรานให้ไหลเวียนสะดวก บำรุงม้าม ระบายตับ กระตุ้นระบบย่อยอาหาร บำรุงหัวใจ ช่วยให้จิตใจสงบหลับสบาย แถมยังรักษาอาการอ่อนเพลีย เวียนหัว ตาลายอีกด้วย เมื่อรู้สึกหนัก ก้าวเท้าไม่ออก ไม่อยากขยับตัว กดที่จุดนี้ จะช่วยการไหลเวียนของเลือดส่วนล่าง บรรเทาอาการอ่อนล้าได้
กดตรงจุดนี้ประมาณ3นาที จนรู้สึกชาตึง จึงหยุดพัก
คลึง โดยใช้ปลายนิ้วมือกดตรงจุดนี้แล้วคลึงไปรอบๆตามเข็ม 120-180 ครั้ง นานประมาณ2-3นาที
*หากกระตุ้นด้วยความเย็นจะรักษาอาการท้องผูก หากกระตุ้นด้วยตวามร้อนจะรักษาอาการท้องร่วง*


 จุดสำคัญต่างๆที่อยู่ตามรางกายของคนเรานั้น ทางการแพทย์จีน เรียกว่า เสวีย (Point) จุดสำคัญต่างๆเหล่านี้มีความสัมพันธ์ต่ออวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งเกี่ยวกับระบบพลัง และ โลหิตที่วิ่งไปสู่อวัยวะภายใน เส้นทางที่พลัง และ โลหิตวิ่งไปสู่ร่างกายนี้ เรียกว่า เสวี้ยลู่ หรือ แพทย์จีน เรียกว่า จิงเล่อ (Meridian Line)
 
จุด (Point) ตั้งอยู่บนของร่างกาย ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับเส้นทางเดินของพลัง และ โลหิต ที่วิ่งสู่อวัยวะภายใน จุดต่างๆเหล่านี้เปรียบเสมือนจุดพักของพลัง และ โลหิต ด้านการแพทย์จีน ถือว่า ในร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยธาตุทั้ง5 คือ ดินทอง น้ำ ไม้ ไฟ แต่ละธาตุจะกำเนิดธาตุหนึ่งจากอีกธาตุหนึ่ง เมื่อธาตุใดธาตุหนึ่งน้อยไปหรือมากไป เรียกว่า ธาตุหย่อน และ ธาตุกำเริบ การแพทย์จีนได้เปรียบเทียบอวัยวะภายในไว้กับธาตุทั้ง5 ซึ่งมีเส้นทางพลัง และ โลหิตวิ่งเข้าสู่อวัยวะภายใน โดยมีจุดต่างๆเป็นตัวเชื่อมต่อให้พลังและโลหิตวิ่งสู่ส่วนต่างๆขอวัยวะภายใน เมื่อพลัง และโลหิตที่วิ่งเข้าสู่อวัยวะภายในไม่สมดุลกันโรคภัยไข้เจ็บก็จะเกิดขึ้น การรักษาผู้ป่วยทางเภสัช (ทางยา) เพื่อให้ภายในร่างกายเกิดความสมดุล หรือ การรักษาด้วยการฝังเข็ม เพื่อไปสกัด หรือกระตุ้นจุดเชื่อมต่างๆของเส้นทางพลัง และโลหิตให้วิ่งเข้าสู่อวัยวะภายในได้สมดุล


ควรนอนก่อน 23.00 เพราะช่วงเวลา 23.00-03.00 เป็นเวลาที่เส้นลมปรานตับ กับถุงน้ำดีทำงาน การนอนก่อนห้าทุ่มจะข่วยให้ตับกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ดีที่สุด
ปรับเวลาการนอนให้สอดคล้องกับชีวภาพ
21.00-09.00เป็นเวลาที่อวัยวะต่างๆภายใน ทะยอยกำจัดพิษออกจากร่างกาย

21.00-23.00 เป็นเวลากำจัดพิษของระบบภูมิคุ้มกัน(น้ำเหลือง) ช่วงนี้ควรอยู่ในอาการสงบหรือฟังดนตรีเบาๆ
23.00-03.00 เป็นช่วงที่ตับและถุงน้ำดีทำงาน และทำหน้าที่ได้ดีที่สุดก็ตอนที่เราหลับสนิท
00.00-04.00 กระดูกสันหลังกำลังสร้างเลือด เราต้องหลับให้สนิท
05.00-07.00 เป็นเวลาขับพิษของลำไส้ใหญ่
07.00-09.00 ลำไส้เล็กดูดซึมอาหาร

การนวดเท้า ที่ให้ผลต่อตับ
สังเกตุหากตับมีปัญหา หลังเท้าที่ตรงข้ามกันส่วนเว้าของฝ่าเท้าจะนูนออก
วิธีนวด ที่ฝ่าเท้าบริเวณร่องกระดูกนิ้วนางกับนิ้วก้อย เป็นแนวยาวลงไปจนเกือบถึงส้น ใช้ข้อนิ้วกดรูด ไปมา

ข้อมูลจาก nanmeebook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น